ETS.Kumtt.ac.th

เพิ่มหน้าจอให้จุใจ พร้อมตั้งค่าง่ายๆ ด้วยตัวเอง (macOS) การเพิ่ม 2 หน้าจอ แบบไร้สาย ด้วยฟีเจอร์ Sidecar ข้อกำหนด เครื่อง Mac ต้องอัปเดตเป็น macOS Catalina 10.15 หรือใหม่กว่า (เครื่อง Mac ที่ผลิตตั้งแต่ 2012 เป็นต้นไป สามารถอัปเดตได้) และ iPad ต้องอัปเดตเป็น iPadOS 13 หรือใหม่กว่า (เช็กรุ่นเครื่อง Mac และ iPad ที่รองรับ  👉 link ) จึงจะสามารถใช้ฟีเจอร์ Sidecar ได้ อุปกรณ์ทั้งสองเครื่องต้องลงชื่อเข้าใช้ iCloud ด้วย Apple ID เดียวกัน อุปกรณ์ทั้งสองเครื่องต้องอยู่ห่างกันไม่เกิน 10 เมตร (30 ฟุต) และเปิดใช้งานบลูทูธ Wi-Fi และ Handoff อยู่ การใช้ iPad กำหนดเป็นจอที่ 2 ด้วย Sidecar มีขั้นตอนดังนี้ กรณี macOS Catalina1. คลิกไอคอน "iPad" ในแถบเมนูด้านบนของเครื่อง Mac2. เลือก "ชื่อ iPad ของคุณ" จากเมนูกรณี macOS Big Sur1. คลิกไอคอน "เมนูจอแสดงผลในศูนย์ควบคุม" ในแถบเมนูด้านบนของเครื่อง Mac2. คลิกไอคอน "iPad" ในเมนู "Display"3. จะแสดงหน้าต่าง Display เลือก "ชื่อ iPad ของคุณ" จากเมนูเพื่อเชื่อมต่อกรณีไม่เห็นไอคอนแสดงที่เครื่องทำตามขั้นตอน ดังนี้ 1. ไปที่ไอคอน "Apple" ที่แถบเมนูด้านบนซ้าย แล้วเลือก "System Preferences"2. คลิกไอคอน "Displays"3. คลิกเครื่องหมายถูกที่ "Show mirroring options in the menu bar when available"  การเพิ่มหน้าจอมากกว่า 1 จอ แบบมีสายและใช้อุปกรณ์เชื่อมต่อ ❗️ หมายเหตุ การเชื่อมต่อจอแสดงผลภายนอกได้มากกว่า 1 จอ โดยขึ้นอยู่กับรุ่นของเครื่อง Mac 1. ทำการเชื่อมต่อ Adapter กับเครื่อง Mac แล้วใช้หัวอีกฝั่งของ Adapter ต่อเข้ากับสาย HDMI ของอีกเครื่อง วิธีการตั้งค่าการแสดงผลของหน้าจอแบบ Multi-monitor สำหรับเครื่อง Mac มีวิธีการดังนี้ วิธีนี้สามารถใช้ได้กับทั้งรูปแบบที่ 1 และรูปแบบที่ 2 มีขั้นตอนดังนี้1. คลิกไอคอน "Apple" ที่แถบเมนูด้านบนซ้าย แล้วเลือก "System Preferences"2. คลิกไอคอน "Displays" เพื่อกำหนดและจัดเรียงหน้าจอแสดงผล3. คลิกเมาส์ค้างเพื่อลากรูปจอ (Drag & Drop) สำหรับกำหนดให้เครื่องไหนเป็นหน้าจอหลัก (จอที่ 1) และหน้าจอรอง (จอที่ 2)4. หากต้องการแสดงผลเหมือนจอหลักทุกจอ ให้กดเครื่องหมายถูกที่ "Mirror Displays" จะได้จอเสริมสำหรับการใช้งาน     ........................ ติดตามและอัปเดตข้อมูลข่าวสารก่อนใครๆอย่าลืมคลิก Add LINE  มานะ  
ระดมสมอง ให้ได้เรื่องและได้งาน ด้วย FigJamFigJam ไวท์บอร์ดออนไลน์สำหรับการ Brainstorm!! FigJam เป็นไวท์บอร์ดออนไลน์ที่ใช้ในการระดมความคิด พร้อมเครื่องมือต่างๆ ที่เหมาะกับการทำงานร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น ปากกา กระดาษโน้ต ลูกศร รูปทรงต่างๆ การเพิ่มรูปภาพ หรือ Features สุดน่ารัก ทั้ง Stamp, Stickers, Emoji, Team HighFive และใช้เครื่องหมายต่างๆ หรือการแชท เพื่อจัดระเบียบความคิดได้อย่างลงตัว ........................ วันนี้ ETS จะพาทุกคนไปเรียนรู้วิธีการใช้งาน FigJam ซึ่งจะมีขั้นตอนเป็นอย่างไรบ้าง ตามมาดูกันเลย   How to Sign up and Invite การเข้าใช้งาน FigJam (Beta) 1. สมัครลงทะเบียนที่ www.figma.com/figjam2. สร้าง Team และ Project3. ส่ง Invite Link ให้กับผู้เข้าร่วม หมายเหตุ : ถ้าต้องการแก้ไขหรือทำงานร่วมกัน ผู้เข้าร่วมจำเป็นจะต้องลงทะเบียนก่อนเข้าใช้งาน ไม่อย่างนั้นจะสามารถเข้าชมได้อย่างเดียว ........................ FigJam ดีกว่าหรือแตกต่างจากไวท์บอร์ดออนไลน์อื่นๆ ยังไง ? - สร้าง diagram ได้ลื่นปรี๊ดดด...และง่ายกว่าเดิม เพราะมี Shapes สำเร็จรูป สามารถสร้าง Map user flows, Processes, Systems และ Journeys - มองเห็นภาพรวมและเข้าใจตรงกันมากยิ่งขึ้นด้วย Visual Whiteboard ในการร่างขั้นตอนการทำงานให้มีประสิทธิภาพและเข้าใจง่ายขึ้นกว่าเดิม - เพิ่มการสื่อสารและแสดงอารมณ์ได้สารพัด ด้วย Emote และ Stamp เพิ่มสีสันแถมปรับขนาดได้อีกด้วย - แค่แชร์ไอเดียผ่านงานอย่างเดียวอาจยังไม่ตอบโจทย์ ทำให้เคลียร์ๆ กันได้ง่ายๆ ด้วยการแชทสดๆ แชร์ความเห็นพร้อมกันได้ทั้งทีม - ระดมสมองร่วมกันจนได้ไอเดียสุดเจ๋งมาแล้วอย่าลืม Team HighFive ให้กำลังใจกับสุดยอดทีมงานทุกคนได้เลย !!! How to use FigJam  ........................ ติดตามและอัปเดตข้อมูลข่าวสารก่อนใคร ๆ อย่าลืมคลิก Add LINE  มานะ
ต่อจอเสริม เพิ่มหน้าจอให้จุใจ พร้อมตั้งค่าง่ายๆ ไม่กี่ขั้นตอน (Windows) การเพิ่มหน้าจอการทำงานโดยใช้ Smartphone เป็นจอเสริมอย่างง่าย ไร้สายเชื่อมต่อ รูปแบบนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีสายเชื่อมต่ออุปกรณ์ เพียงแค่ใช้ Smartphone เท่านั้นก็สามารถเพิ่มหน้าจอการทำงานได้ง่ายๆ ก่อนอื่นดาวน์โหลดโปรแกรม SPACEDESK ติดตั้งที่เครื่องคอมพิวเตอร์และ Smartphone ของคุณ ดังนี้ 🔹 คอมพิวเตอร์ระบบปฏิบัติการ Windows  👉 link🔹 Smartphone ระบบ IOS 👉  link    🔹 Smartphone ระบบ Android 👉 link ❗️หมายเหตุ : ก่อนใช้งานให้เชื่อมต่อ Wifi  ที่ Smartphone และคอมพิวเตอร์ ด้วย Wifi ชื่อเดียวกัน ........................ ส่วนที่ 1 ไปที่เครื่องคอมพิวเตอร์ 1. เปิดโปรแกรม SPACEDESK ที่คอมพิวเตอร์ขึ้นมา2. คลิกที่ "Setting" มุมบนซ้ายของโปรแกรม แล้วเลือก "ON"ส่วนที่ 2 ไปที่ Smartphone, Tablet, หรือ  iPad  3. เปิดโปรแกรม SPACEDESK ขึ้นมา ระบบจะทำการค้นหาเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ4. เลือก "Connection: 192.168.0.183 (IP-Address เครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ)" เมื่อเลือกเสร็จแล้ว หน้าจอคอมพิวเตอร์จะแสดงผลที่หน้าจอ Smartphone ทันที5. หากต้องการปิดการเชื่อมต่อ ให้ไปที่เครื่องคอมพิวเตอร์ เปิดโปรแกรม SPACEDESK จากนั้นคลิกที่ "Setting" มุมบนซ้าย แล้วเลือก "OFF" 💡 Tip หากต้องการเพิ่มจอที่ 3 หรือ 4 สามารถทำได้ โดยการเพิ่มอุปกรณ์ Smartphone, Tablet, และ iPad ได้   การเพิ่มหน้าจอการทำงานบนระบบ Windowsสำหรับผู้ที่มีสายอุปกรณ์เชื่อมต่อ สามารถทำได้ 2 วิธี ดังนี้ วิธีที่ 1 การใช้สาย VGA หรือสาย HDMI ต่อตรงเข้ากับคอมพิวเตอร์และจอที่ต้องการโดยตรง มีวิธีการเชื่อมต่อดังนี้ 1. นำสาย VGA หรือสาย HDMI  ต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ทั้ง 2 เครื่อง วิธีที่ 2 การใช้ Adapter กล่องสลับแยกสัญญาณ HDMI Switch ซึ่งจะสามารถต่อจอเพิ่มได้ตามจำนวน Port ที่ Adapter มีมาให้ มีวิธีการเชื่อมต่อดังนี้ 1. สาย HDMI (เส้นที่ 1) หัวสายต่อเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ ปลายสายต่อเข้ากับกล่อง HDMI Switch ในช่อง Input2. สาย HDMI (เส้นที่ 2) หัวสายต่อเข้ากับกล่อง HDMI Switch ในช่อง Output และปลายสายต่อเข้ากับจอ Monitor ที่ต้องการ วิธีการตั้งค่าการแสดงผลของหน้าจอแบบ Multi-monitor สำหรับ Windows 10 มีวิธีการดังนี้ 1. คลิกขวาที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ แล้วเลือก "Display settings" 2. คลิกเลือกรูปแบบการแสดงผลที่ Multiple displays ซึ่งมีให้เลือกดังนี้   🔹 Duplicate these displays : กำหนดให้หน้าจอทุกตัวแสดงผลเหมือนกับหน้าจอหลัก (จอที่ 1) ทุกอย่าง   🔹 Extend these displays : กำหนดให้หน้าจอทุกตัวแสดงผลแบบต่อเนื่องกัน คือ สามารถขยายการทำงานให้กว้างไปตามจำนวนจอที่ต่อไว้   🔹 Show only on 1 : แสดงผลเฉพาะหน้าจอที่ 1 เท่านั้น   🔹 Show only on 2 : แสดงผลเฉพาะหน้าจอที่ 2 เท่านั้น3. คลิกลากกล่องตัวเลข (Drag & Drop) เพื่อเลือกจัดเรียงหน้าจอการแสดงผลให้ได้ตามรูปแบบที่ต้องการ4. คลิกปุ่ม "Identify" สังเกตว่าจะมีตัวเลขของหน้าจอปรากฏขึ้น เพื่อตรวจสอบความถูกต้องว่าเครื่องไหนเป็นหน้าจอหลัก (จอที่ 1) และหน้าจอเสริม (จอที่ 2)5. คลิกปุ่ม "Apply" เพื่อยืนยัน อ่านวิธีเพิ่มหน้าจอการทำงานให้ง่ายขึ้นบนเครื่อง Mac คลิก!! ........................ ติดตามและอัปเดตข้อมูลข่าวสารก่อนใครๆอย่าลืมคลิก Add LINE  มานะ  
Horizon Workrooms โลก Avatar สำหรับทำงานหรือเรียนแบบ VRล่าสุด Facebook เปิดตัว Horizon Workrooms สำหรับทำงาน ประชุมเรียน พูดคุยสื่อสารกันได้เสมือนจริงในยุค Work From Home Horizon Workrooms คือ พื้นที่ๆ ทุกคนสามารถนั่งทำงาน ประชุม หรือเรียนอยู่ในห้องเดียวกันได้เสมือนจริงแบบ 360 องศาด้วยเทคโนโลยี VR (Virtual Reality) โดยใช้ควบคู่กับแว่น Oculus Quest 2   รายละเอียดของฟีเจอร์ต่างๆ จะมีอะไรบ้าง...ไปดูกันเลย ผู้ใช้งานสามารถกำหนดขนาดพื้นที่ รูปแบบห้อง และใช้อุปกรณ์ต่างๆ จริง ไปแสดงผลที่ Workrooms ได้ เช่น โต๊ะ คอมพิวเตอร์ คีย์บอร์ด โดยอุปกรณ์เหล่านี้จะติดตั้งไปอยู่ตรงหน้าผู้ใช้งานในโลกเสมือน ซึ่งตัว Desktop จะรองรับระบบปฏิบัติการทั้ง Windows และ Mac ด้วยเทคโนโลยีใหม่ที่พัฒนาใน Oculus ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในสถานที่เดียวกันผ่านตัวการ์ตูน (Avatar) โดยการแสดงท่าทาง ความรู้สึก จะมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น นอกจากนี้ยังสื่อสารได้ไม่มีสะดุดสามารถรับเสียงได้แบบ Real time ระดมสมองหรือขีดเขียนไอเดียได้ทุกที่ เพราะภายในห้องของ Workrooms จะมีกระดาน Whiteboard ไว้ให้ใช้งานได้ และสามารถบันทึกข้อมูลต่างๆ ที่อยู่บน Whiteboard ออกมาเป็นไฟล์รูปภาพเก็บไว้ใช้งานภายหลังได้  ไม่มีแว่น Oculus ก็ใช้งานได้ผ่านวิดีโอคอลบนเครื่องคอมพิวเตอร์ (แค่ไม่ได้เข้าไปอยู่ในโลกเสมือนจริงแบบ VR) โดยผู้ใช้งานสามารถส่งลิงก์ URL ให้กับผู้อื่นที่ต้องการเข้าร่วม หรือเชื่อมต่อกับ Outlook , Google Calendar เพื่อส่งคำเชิญ และนัดหมายวันเวลาได้เลย ซึ่งหน้าจอของคนที่เข้าผ่านวิดีโอคอลก็จะขึ้นแสดงบนจอของห้องประชุมเสมือนใน Workrooms ทั้งนี้ห้องประชุมจะรองรับได้สูงสุด 50 คน (16 คนจากการเข้าร่วมแบบ VR และอีก 34 คนเข้าร่วมผ่านวิดีโอคอล)   Ref. Oculus YouTube Channel   การเข้าใช้งาน Horizon Workrooms (Beta) สมัครลงทะเบียนเพื่อสร้างบัญชีที่เว็บไซต์ https://www.oculus.com/workrooms ดาวน์โหลดและติดตั้งแอป Workrooms ใน Oculus Store ทำการเชื่อมต่อบัญชีที่สร้างขึ้นเข้ากับแว่น Oculus Quest 2 ด้วยการกรอกรหัสที่ปรากฎบน Oculus Quest 2 ลงในเว็บเบราว์เซอร์บนคอมพิวเตอร์ ส่งลิงก์ URL ให้กับผู้เข้าร่วม โดยจะต้องยินยอมปฏิบัติตามนโยบาย Conduct in VR Policy ต่างๆ บนแพลตฟอร์ม แล้วกดปุ่มยอมรับ จากนั้นให้กดยืนยัน (ผู้เข้าใช้งานต้องมีอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไป) และตั้งชื่อเพื่อเข้าใช้งาน หมายเหตุ : Oculus Quest 2 นั้นจะต้องใช้บัญชี Facebook ร่วมกับบัญชีของ Oculus เพื่อการใช้งานให้เต็มประสิทธิภาพ ศึกษาข้อมูลการติดตั้งเพิ่มเติมได้ ที่นี่ Source : https://about.fb.com/news/2021/08/introducing-horizon-workrooms-remote-collaboration-reimagined ........................ ติดตามและอัปเดตข้อมูลข่าวสารก่อนใครๆอย่าลืมคลิก Add LINE  มานะ
ฟิลเตอร์สุดฮา เปลี่ยนหน้าไม่ซ้ำแบบ ด้วย Snap Cameraถูกใจสายฮากับ Snap Camera สร้างสีสันและรอยยิ้มให้ทุกการเรียนการสอน/การประชุมออนไลน์ ในช่วงที่หลายๆ คน Work from Home กันอยู่ตอนนี้ แน่นอนว่าจะต้องใช้โปรแกรมหรือแอปพลิเคชัน Video Callเพื่อติดต่อสื่อสารกันทุกวันผ่าน Zoom, Google Meet, Microsoft Teams, Skype และอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่ผู้เข้าร่วมมักจะปิดกล้องเพราะสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย หรือเสื้อผ้าหน้าผมไม่พร้อม ........................ ETS ก็เลยเอาแอปพลิเคชันฟิลเตอร์กล้องเด็ดๆ อย่าง Snap Camera มาแนะนำให้ใช้คู่กับโปรแกรมหรือแอปพลิเคชัน Video Call ต่างๆ มาลองเล่นและเรียนรู้ไปพร้อมๆ กันกับ ดร.กลางใจ สิทธิถาวร (อ.ต้อง) ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายพัฒนาการศึกษา มจธ.   SnapCamera : Intro ........................ ติดตามและอัปเดตข้อมูลข่าวสารก่อนใครๆ อย่าลืมคลิก Add LINE  มานะ
Canva Whiteboard ฟีเจอร์น้องใหม่ ที่สายแชร์ไอเดียต้องโดน!กิจกรรมสนุกระดมความคิดสนั่นกับ Canva Whiteboard !ถ้าให้นึกถึงการออกแบบงานกราฟิก หรือ Presentation สวยๆ สักชิ้นละก็ Canva คงเป็นรายชื่อแรกๆ ที่ทุกท่านนึกถึงใช่ไหมครับแต่ตอนนี้ Canva ได้เปิดตัวฟีเจอร์น้องใหม่ นั่นคือ Whiteboard กระดานระดมสมองที่ใช้งานง่าย พร้อม Templates อีกเพียบที่เหมาะสำหรับทุกกิจกรรมการเรียนรู้ ฟีเจอร์นี้จะเจ๋งแค่ไหน ไปดูพร้อมกันเลยครับ........................ ทำไมต้องใช้ Canva Whiteboard  Unlimited Collaboration มากคน มากไอเดีย ทุกคนสามารถแชร์ไอเดียได้ เพียงแค่มีบัญชี Canva  Templates เหมาะกับทุกกิจกรรมทุกรูปแบบ Icebreaking, Mind Mapping, Idea Board Let’s Fun สนุกได้ไม่จำเจ! เพิ่มสีสันให้บอร์ดได้ง่ายๆ ด้วยการเพิ่ม Emoji หรือ Sticker Timer เพิ่มความตื่นเต้นให้กับกิจกรรมด้วยการจับเวลา Add Comment แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อให้ไอเดียเจ๋งกว่าเดิม Introducing Canva Whiteboards Ref. Canva วิธีเข้าใช้งาน ลงชื่อเข้าใช้งาน Canva ด้วยบัญชีประเภทใดก็ได้ (บุคลากรทางการศึกษาสามารถสมัคร Canva Education Plan ได้ที่นี่ Link)หมายเหตุ: ผลการสมัครแบบ Education Plan ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ Canva  คลิก Whiteboard เพื่อสร้างบอร์ดสำหรับระดมสมอง  เลือก Template แต่ละประเภทให้เหมาะสมกับรูปแบบกิจกรรม   ตัวอย่าง Board ประเภทต่างๆ  Launch Ideas: บอร์ดระดมไอเดียในห้องเรียน/การทำงาน Roles and Duties: สร้างกฏและแบ่งหน้าที่ในห้องเรียน Team Standup Meeting: แชร์ Process การทำงานและระดมสมองแก้ไขปัญหา นอกจากนี้แล้วยังมี Templates ในรูปแบบ Stakeholder Mapping, Retrospective, SWOT Analysis และอื่นๆ อีกมากมายถ้าสนใจที่จะลองใช้แล้ว ไปที่ Canva Whiteboard พร้อมกันได้เลยครับ!! ........................ติดตามและอัปเดตข้อมูลข่าวสารก่อนใครๆอย่าลืมคลิก Add LINE  มานะ
จับเข่าคุยแบบ No Schedule ด้วย Slack Huddlesจับเข่าคุยแบบ No Schedule หรือเริ่มต้นการสนทนาออนไลน์ให้ "ใกล้ชิด" เหมือนหันหน้าคุยกัน ด้วย "Huddles" ฟีเจอร์ใหม่จาก Slack บางท่านอาจจะยังไม่รู้จัก Slack ว่าคืออะไรและฟีเจอร์ Huddles มีประโยชน์อย่างไรบ้าง เกริ่นก่อนว่าทีม ETS ใช้ Slack เป็นเครื่องมือสื่อสารหลักในการทำงานภายในทีม เพราะสามารถรับส่งข้อความ ภาพถ่าย วิดีโอ ไฟล์เอกสาร ลิงก์ โค้ดต่างๆหรือสร้างห้องเพื่อคุยงานแยกทีมแต่ละกลุ่มได้ ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ Slack ได้มีการอัปเดตฟีเจอร์ Huddles โดยมีแนวคิดเหมือนการคุยรวมกับทีมแบบไม่เป็นทางการ ไม่ต้องกำหนดนัดหมายตารางประชุม ใครสะดวกก็สามารถเข้าร่วมคุยได้ ........................ สำหรับใครที่ติดตั้ง Slack แล้ว และกำลังมองหาวิธีการใช้งาน Huddlesวันนี้ ดร.กลางใจ สิทธิถาวร (อ.ต้อง) ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายพัฒนาการศึกษา มจธ. มารีวิววิธีการใช้ฟีเจอร์นี้ให้ตั้งแต่ต้นจนจบ ลองไปดูกันเลย ... Slack Huddle หมายเหตุ: ฟีเจอร์ Huddles รองรับเฉพาะผู้ใช้งาน Slack แบบเสียเงิน (Pro, Business, Enterprise Grid) ........................ ติดตามและอัปเดตข้อมูลข่าวสารก่อนใครๆ อย่าลืมคลิก Add LINE  มานะ
Gather.town โลกออนไลน์อีกใบของการ Work & Learn!!เติมเต็มกิจกรรมต่างๆ ที่ขาดหายไปในช่วง Work From Home เรียน เล่น ประชุม ครบ ! จบในที่เดียว   Gather.town เว็บไซต์ Video-Calling Space ที่อยู่ในรูปแบบเกม Simulation ให้ผู้ใช้งานสร้างตัวละครของตนเองและสร้างพื้นที่ทำงานโดยที่จำลองพื้นที่ทำงานได้หลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น ห้องใน Office, Auditorium,ร้านกาแฟ, ห้องเรียนแบบแบ่งกลุ่ม หรือจะเป็นในยานอวกาศ แถมยังสร้างของตกแต่งเองได้ไม่จำกัด ! ........................ วันนี้ ETS จะพาทุกคนเข้าสู่โลกของ Gather.town ในการทำงานกันครับจะมีขั้นตอนวิธีการใช้งานเป็นอย่างไรบ้าง ตามมาดูกันเลย How to Sign up and Invite   Features ของ Gather.town นั้น มีพื้นฐานของ Virtual Meeting ทั้งการ Chat, Voice chat, Video conferenceหรือ Screen Sharing แต่ที่มากกว่านั้นก็คือ เราสามารถจัด Private zone ที่คุยงานแบบเฉพาะกลุ่มการ Broadcast นำเสนองานผ่าน Virtual Board และยังสามารถ Link ไปที่อื่นโดยไม่ต้องสลับหน้าจอได้ไม่ว่าจะเป็น Google Slides, PowerPoint Online, YouTube หรือจะเล่นเกมก็ยังได้   How to use Gather.town    การใช้งานรูปแบบ Free ทำอะไรได้บ้าง  สร้างห้องได้ไม่จำกัด และรองรับผู้เข้าร่วมใช้งานได้สูงสุด 25 คน มี Features ที่ Support การ Brainstroming และ Teamwork มากมาย เช่น การแนบลิงก์ ข้อมูลต่างๆ การใช้กระดาน Private Zone เป็นต้น ตกแต่งได้ไม่จำกัด ทั้งการแต่งตัว แต่งห้อง จัดสวน หรือตู้เกมได้แบบ Unlimited                                  การตั้งค่าพื้นฐาน เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นทำการแก้ไข เคลื่อนย้ายอุปกรณ์ภายในพื้นที่ของห้องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การเสกตู้เกม การลบห้องทำงาน ดังนั้นเจ้าของห้อง (Owner) จึงจำเป็นจะต้องกำหนดสิทธิ์และตั้งค่าให้เรียบร้อย ซึ่งมีวิธีการดังนี้ หมายเหตุ : กรณีมีผู้ใช้งานมากกว่า 25 คนต่อห้อง จะมีค่าบริการโดยมีทั้งแบบรายชั่วโมง/รายวัน/รายเดือน การใช้งานบน Smartphone, Tablet หรือ iPad จะไม่สามารถใช้ Features ส่วนใหญ่ได้ (ระบบกำลังเตรียมพัฒนา) ........................ ติดตามและอัปเดตข้อมูลข่าวสารก่อนใคร ๆ อย่าลืมคลิก Add LINE  มานะ  
ใครๆ ก็ทำวิดีโอได้ด้วย Powtoonใครๆ ก็ทำวิดีโอได้ด้วย Powtoon เปลี่ยนสื่อการสอน/งานนำเสนอธรรมดาให้เป็นแอนิเมชันสุด Wow หลายท่านคงคุ้นๆ กับโปรแกรมชื่อ Powtoon กันอยู่บ้างใช่ไหมคะ หรือบางท่านอาจจะยังสงสัยว่าแล้ว Powtoon คืออะไร ทำอะไรได้บ้าง?ETS จะมาเล่าสู่กันฟังว่า Powtoon เป็นโปรแกรมกึ่งสำเร็จรูปที่ทำงานคล้ายๆ กับ Microsoft PowerPoint เพียงลากสิ่งต่างๆ มาวางบนสไลด์จะใส่เสียงพากย์หรือเสียงดนตรีประกอบด้วยก็ได้ แล้วปรับแต่งรูปแบบตามต้องการ เพียงเท่านี้ก็จะได้วิดีโอแบบแอนิเมชันสุด Wow แล้วง่ายขนาดนี้รออะไร ... มาลองใช้กันเลย ........................ ETS ขอแนะนำการใช้งาน Powtoon แบบง่ายๆตามสไตล์ ดร.กลางใจ สิทธิถาวร (อ.ต้อง) ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายพัฒนาการศึกษา มจธ. Powtoon : Screen Recording   Powtoon : Presentation Intro   สำหรับท่านใดที่สนใจ และต้องการดูรายละเอียดการใช้งาน Powtoon เพิ่มเติมสามารถ Download คู่มือฯ ได้ ที่นี่  (อย่าลืม Login ก่อน Download) ........................ ติดตามและอัปเดตข้อมูลข่าวสารก่อนใครๆ อย่าลืมคลิก Add LINE  มานะ
zoom-app-marketplaceเรียกใช้งานแอปพลิเคชันอื่นๆ ผ่าน Zoom ได้โดยไม่ต้องสลับหน้าจอจะเล่น Game Werewolf หรือทำ Survey ก่อนเรียน ต่อด้วย Quiz ก็จัดการได้ง่ายๆ เปิดประสบการณ์ใหม่!! ในการใช้งาน Zoom ล่าสุดได้มีการเปิดตัวหน้า 𝗔𝗽𝗽 𝗠𝗮𝗿𝗸𝗲𝘁𝗽𝗹𝗮𝗰𝗲 เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งาน Zoom สามารถเลือกติดตั้งแอปพลิเคชันของค่ายอื่นๆ เพิ่มเติมได้โดยไม่ต้องสลับหน้าจอหรือเปิดแท็บใหม่ ซึ่งมีแอปพลิเคชันให้เลือกใช้งานหลากหลายประเภท เช่น 𝗘𝗱𝘂𝗰𝗮𝘁𝗶𝗼𝗻, 𝗣𝗿𝗼𝗱𝘂𝗰𝘁𝗶𝘃𝗶𝘁𝘆, 𝗖𝗼𝗹𝗹𝗮𝗯𝗼𝗿𝗮𝘁𝗶𝗼𝗻, 𝗙𝗶𝗻𝗮𝗻𝗰𝗲, 𝗚𝗮𝗺𝗲𝘀 และอื่นๆ เพื่อช่วยอัปเกรดสร้าง Productive เพิ่มการมีส่วนร่วม และทำให้บรรยากาศสนุกสนานมากยิ่งขึ้น ........................ ฟังอย่างนี้แล้ว ... ใครที่เคยเลิกใช้งาน Zoom ไปคงต้องร้องว่าอยากเริ่มต้นใหม่กับคนเดิมกันเลยทีเดียววันนี้ ETS เลยจัดทำวิดีโอแนะนำ Step วิธีการใช้งาน มาแชร์ให้ทุกคนได้ลองทำตามกัน Download & Install Zoom App Marketplace หมายเหตุ: ผู้เข้าร่วมจำเป็นจะต้องอัปเดตแอปฯ Zoom เป็นเวอร์ชันล่าสุด บางแอปฯ จำเป็นจะต้องได้รับการอนุญาตจาก Admin Zoom จึงจะดาวน์โหลดและติดตั้งได้   How to use Zoom App Marketplace หมายเหตุ: ผู้เข้าร่วมจะต้อง Login แอปฯ ที่ต้องการใช้งานผ่าน Zoom ก่อนทุกครั้ง ซึ่งการใช้งานแอปฯ อื่นๆ ภายในห้องประชุมเดียวกัน ทุกคนที่เข้าร่วมจะต้องติดตั้งแอปฯ เหมือนกันถึงจะสามารถใช้งานได้ ......................... ติดตามและอัปเดตข้อมูลข่าวสารก่อนใครๆ อย่าลืมคลิก Add LINE  มานะ
ดึงดูดผู้เรียนด้วยเทคนิคการสร้าง Audio Content บน “Clubhouse”  “ขอ Invite เข้า Clubhouse หน่อย”    คาดว่าเดี๋ยวนี้ใครก็ตามที่ใช้สื่อโซเชียลมีเดียกันเป็นประจำอยู่แล้วคงไม่มีทางที่จะไม่รู้จัก “Clubhouse” โซเชียลแอปพลิเคชันใหม่สำหรับการสนทนาในรูปแบบเสียงที่กำลังมาแรงอยู่ในขณะนี้ ที่หลังจากมีการเข้าใช้งานของเหล่าคนดังมากมายจากหลากหลายวงการ ก็ทำให้ “Clubhouse” สามารถแจ้งเกิดและสร้างเสียงฮือฮาในวงกว้างได้เพียงชั่วข้ามคืน ความโดดเด่นของ “Clubhouse” คือ การใช้งานที่แสนเรียบง่าย และข้อมูลความรู้ที่มีความสดใหม่อยู่เสมอ ซึ่งผู้ใช้สามารถเปิดห้องเพื่อเริ่มต้นการสนทนาได้ด้วยตนเอง หรือจะเลือกเข้าไปยังห้องสนทนาที่สนใจ เพื่อรับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเหล่ากูรูที่ชื่นชอบได้เพียงการกดปุ่มแค่ไม่กี่ปุ่ม แถมในตอนนี้ทางแอปพลิเคชันก็ยังเปิดให้ใช้บริการกันได้ฟรีๆ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอีกด้วยแต่เห็นอย่างนี้ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนที่นึกอยากใช้ก็จะได้ใช้เสมอไป.. เพราะเงื่อนไขเพียงหนึ่งข้อของคลังความรู้ฟรีๆ แบบ Realtime นี้ก็คือ ผู้ใช้ที่สามารถเข้าร่วม Clubhouse ได้ จะต้องได้รับการเชิญเท่านั้น และในตอนนี้ทางแอปพลิเคชันก็ยังให้บริการเฉพาะผู้ใช้งานบนระบบ IOS เท่านั้น ส่วนทางผู้ใช้ระบบ Android คงต้องอดใจรอกันอีกหน่อยแต่จะมีมาให้ได้ใช้งานกันอย่างแน่นอน   .  .  .  .   ทำไมผู้เรียนหลายคนถึงนั่งฟัง “Clubhouse” ได้เป็นวันๆ แต่กลับเบื่อการนั่งเรียนออนไลน์ เพียง 2-3 ชั่วโมง? หากใครมีโอกาสได้ลองเข้าไปใช้งาน “Clubhouse” กันมาแล้ว ก็อาจจะสังเกตได้ว่าผู้ใช้งานส่วนใหญ่ถ้าไม่นับกลุ่มคนทำงานแล้ว ที่เหลือก็ล้วนเป็นกลุ่มนักเรียน-นักศึกษากันทั้งนั้น แถมพวกเขาเหล่านี้ก็ยังอยู่ที่ “Clubhouse” ในฐานะผู้ฟังที่ดี หรือบางครั้งก็เป็นผู้ที่แสดงความคิดเห็นในประเด็นสำคัญต่างๆ ได้อย่างน่าสนใจ และยิ่งไปกว่านั้นคือ บางห้องสนทนาที่ถึงแม้จะมีการพูดคุยกันนานกว่า 3-4 ชั่วโมงต่อวัน กลับมีจำนวนผู้ฟังที่ค่อนข้างคงที่ ไม่ได้ลดน้อยถอยลงไปจากเดิมซักเท่าไหร่ มิหนำซ้ำผู้เข้าร่วมบางคนยังมีการจดบันทึกและทำสรุปเนื้อหาจากการฟังออกมาเผยแพร่ผ่านในสื่อโซเชียลอื่นๆ เช่น Facebook เพื่อแบ่งปันความรู้เหล่านั้นให้กับผู้อื่นที่ไม่สามารถเข้าร่วมได้อีกด้วย แต่เมื่อลองย้อนมองกลับมาที่รูปแบบการศึกษาภายในระบบของเราตอนนี้ ทำไมสิ่งที่ทำได้มากที่สุดอย่างการเรียนออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ กลับไม่สามารถสร้างการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งานได้ดีเท่า “Clubhouse” ทั้งๆ ที่มีฟังก์ชันการใช้งานสำหรับสนับสนุนการเรียนการสอนมากมายเหมือนในห้องเรียน? เพราะ การพูดคุยในนี้ไม่สามารถบันทึกเสียงไว้กลับมาฟังใหม่ได้เมื่อจบลงไปแล้ว จึงทำให้ผู้ฟังรู้สึกว่าเนื้อหานี้มีคุณค่า?   เพราะ ได้ฟังความรู้และได้ถามคำถาม แถมยังได้คำตอบจากประสบการณ์จริงของผู้เชี่ยวชาญในวงการที่พวกเขาสนใจ? เพราะ มันง่ายต่อทั้งผู้พูดและฟัง ไม่ต้องจัดฉาก ไม่ต้องเดินทาง ไม่ต้องแต่งตัว ยังไงก็ไม่มีใครเห็น? แต่ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลใดเหตุผลหนึ่งหรือทั้งหมดจากที่ได้กล่าวมานี้ การมาของ “Clubhouse” ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งประเด็นใหม่ที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับวงการการศึกษาในปัจจุบัน และในฐานะ "ผู้สอน" ที่นับว่าเป็นบุคลากรสำคัญในวงการนี้.. ถึงเวลาแล้วรึยัง? ที่เราจะเริ่มปรับตัวและมองหาช่องทางใหม่ๆ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการเพิ่มการส่วนร่วมกับผู้เรียนให้มากยิ่งขึ้นกว่านี้   .  .  .  .   3 วิธีง่ายๆ ในการประยุกต์ใช้ Clubhouse สำหรับผู้สอน 1. นำเสนอข้อมูล หรือ ประสบการณ์ที่น่าสนใจเพิ่มเติมจากเนื้อหาที่สอน ผู้สอนสามารถสร้างห้องสนทนาแบบ Open ใน “Clubhouse” นอกเวลาเรียน เพื่อพูดถึงประเด็นที่น่าสนใจ หรือเล่าประสบการณ์จริงที่เกี่ยวข้องกับบทเรียน รวมทั้งเปิดโอกาสให้ทั้งผู้เรียน และบุคคลภายนอกที่สนใจได้เข้ามามีส่วนร่วมในแสดงความคิดเห็น หรือตั้งคำถามได้โดยที่ไม่รบกวนเวลาเรียน  ข้อแนะนำสำหรับผู้สอน: คำนึงอยู่เสมอว่าเนื้อหารูปแบบนี้ที่จะนำมาพูดใน “Clubhouse” ไม่ควรจะมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับเนื้อหาตามหลักสูตร หรือเป็นเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการสอบของผู้เรียน แต่ควรจะเป็นเนื้อหาที่ผู้สอนเสนอให้เป็นตัวเลือกสำหรับผู้เรียนที่สนใจฟังเท่านั้น มิเช่นนั้นจะกลายเป็นการเพิ่มเวลาเรียน และทำให้ผู้เรียนยิ่งรู้สึกเบื่อหน่ายเข้าไปอีก 2. สรุปเนื้อหาก่อนสอบและตอบคำถามที่ผู้เรียนสงสัย มีหลากหลายสาเหตุที่ทำให้ผู้สอนบางท่านไม่สามารถสอนทุกบทเรียนให้จบตามแผนการสอนได้ ทำให้สุดท้ายต้องมารีบรวบรัดตัดตอน สอนหลายๆ บทเรียนติดต่อกันในคาบเดียว เพื่อให้ได้ใช้คาบสุดท้ายมานั่งสรุปภาพรวมของเนื้อหาทั้งหมดให้กับผู้เรียนก่อนสอบ ดังนั้นการสร้างห้องสนทนาแบบ Closed ใน “Clubhouse” และเชิญผู้เรียนทั้งหมดที่สนใจให้เข้ามาฟังร่วมกันในครั้งเดียวจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะนอกจากจะได้ทบทวนเนื้อหากันอย่างเต็มที่โดยไม่รบกวนเวลาในห้องเรียนแล้ว ผู้สอนก็ยังไม่ต้องมาเหนื่อยในการพูดและตอบคำถามแบบเดิมซ้ำกันหลายๆ รอบอีกด้วย    3. แจ้งข้อมูลข่าวสาร และให้คำปรึกษาเกี่ยวกับรายวิชา “Clubhouse” โดดเด่นด้านการสื่อสารโดยตรงผ่านเสียงอยู่แล้ว จึงค่อนข้างเหมาะสำหรับนำไปประยุกต์ใช้ในการให้คำปรึกษา และประชาสัมพันธ์ข่าวสารใหม่ๆ เพียงแค่ผู้สอนสร้างห้องสนทนาแบบ Closed ใน “Clubhouse” และเชิญชวนผู้เรียนให้เข้ามาร่วมพูดคุย ถาม-ตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับรายวิชา การบ้าน หรือ Project รวมไปถึงใช้แจ้งข่าวสารสำคัญต่างๆ ให้ได้อย่างรวดเร็วและชัดเจน   .  .  .  .   วิธีการใช้งาน Clubhouse ที่แสนเรียบง่าย แต่ Exclusive 1. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Clubhouse  ในระบบ iOS2. กดปุ่ม “Get Your Username” เพื่อเริ่มต้นลงทะบียน3. กรอกเบอร์โทรศัพท์4. รอรหัส OTP และกรอกตัวเลขให้ถูกต้อง5. กรอก ชื่อ-นามสกุล6. กรอก Username ที่ต้องการใช้7. เมื่อสมัครเสร็จแล้ว ผู้ใช้จะต้องรอให้ใครซักคนส่งคำเชิญเข้าร่วม Clubhouse มาให้ หรือ ถ้าหากมีเพื่อนที่ใช้งาน Clubhouse อยู่แล้ว ก็สามารถขอให้อีกฝ่ายส่งคำเชิญมาให้ผ่านเบอร์โทรศัพท์ได้ทันที   .  .  .  .   ถึงแม้ว่า “Clubhouse” ยังไม่ใช่เครื่องมือที่จะมาทดแทนการเรียนในห้องเรียนหรือการเรียนผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์อื่นๆ ในปัจจุบันได้อย่างเต็มรูปแบบ แต่ก็นับว่าเป็นเครื่องมือใหม่ๆ สำหรับให้ผู้สอนนำไปประยุกต์ใช้ในการนำเสนอข้อมูล ความรู้ หรือข่าวสารต่างๆ ให้กับผู้เรียนได้หลากหลายกลุ่ม ดังนั้น หากผู้สอนท่านใดสนใจที่จะลองศึกษาวิธีการใช้งานเบื้องต้นสำหรับ “Clubhouse” ทางทีมงาน ETS ได้จัดทำคู่มือการใช้งานมาให้แล้ว โดยสามารถดาวน์โหลดได้ ที่นี่   (อย่าลืม Login เข้าใช้งานก่อนดาวน์โหลดคู่มือนะคะ)